The Last Temptation of Christ เป็นภาพยนตร์อื้อฉาวที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2531 กำกับโดยมาร์ติน สกอร์เซซี อำนวยการสร้างโดย บาร์บารา เดอ ฟีนา ภรรยาของสกอร์เซซีในขณะนั้น ดัดแปลงจากบทประพันธ์ในชื่อเดียวกันของ นิคอส คาซานซาคิส [1] นักเขียนชาวครีต มีเนี้อหาเกี่ยวกับชีวิตของพระเยซู โดยเน้นไปที่การบำเพ็ญทุกขกิริยา ก่อนจะถูกประหารชีวิตโดยการตรึงกางเขน และทรงถูกทดสอบโดยมารร้ายในช่วงบั้นปลายพระชนม์ชีพ โดยการยั่วยวนด้วยกิเลสทั้งหลาย
ภาพยนตร์ รับบทนำโดย วิลเลม ดาโฟ เป็นพระเยซู, ฮาร์วีย์ คีเทล เป็นจูดาส์ อิสคาริออท, บาร์บารา เฮอร์ชีย์ เป็นแมรี แม็กดาเลน มีเดวิด โบวี รับบทสมทบเป็นปอนติอุส ปิลาตุส และแฮรรี ดีน สแตนตัน เป็นพอลแห่งทาร์ซัส [2]
ใน ช่วงแรกที่ภาพยนตร์ออกฉาย ถูกต่อต้านอย่างหนักจากหมู่ชาวคริสเตียน ด้วยข้อกล่าวหาการดูหมิ่นศาสนา [3] เนื่องจากภาพยนตร์นำเสนอเหตุการณ์ช่วงที่ถูกยั่วยวนจากซาตาน โดยทรงเลือกที่จะแต่งงานกับแมรี แม็กดาเลนและใช้ชีวิตครอบครัวแบบคนธรรมดา แทนที่จะทรงสิ้นพระชนม์ด้วยการตรึงกางเขน รวมทั้งยังมีฉากสั้นๆ ที่แสดงการร่วมเพศระหว่างพระองค์กับแมรี แม็กดาเลน อย่างไรก็ตามภาพยนตร์ก็ได้เปิดเผยในท้ายที่สุดว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงนิมิต และทรงเลือกที่จะปฏิบัติตามภารกิจของพระองค์ นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังถูกโจมตีถึงรายละเอียดบางอย่างในเรื่อง เช่น ลักษณะการตรึงกางเขนที่มีการตอกตะปูที่ข้อมือ แทนที่จะเป็นที่ฝ่ามือตามภาพเขียนศิลปะคริสต์ศาสนาทั่วไป รวมไปถึงการที่นักแสดงในเรื่องพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน [4]
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกห้ามฉายในหลายประเทศ [5] เช่น ตุรกี, เม็กซิโก, ชิลี, อาร์เจนตินา, ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์
ภาพยนตร์ เรื่องนี้ทำให้สกอร์เซซีได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับ ยอดเยี่ยม, บาร์บารา เฮอร์ชีย์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบหญิง ส่วนบทบาทจูดาส์ อิสคาริออท ของฮาร์วีย์ คีเทล กลับทำให้เขาถูกเสนอชื่อรับรางวัลแรซซี สาขานักแสดงสมทบยอดแย่ [6]